ร่ายมาซะยาว...มาเข้าสาระกันเถอะ อ๊ะ...บทความนี้พิเศษสำหรับคนที่มีโอกาสอ่านเท่านั้นนะ
ก่อนอื่นนะ ก่อนที่จะสอบอะไรก็ตาม เราต้องฉลาดก่อน พอเราฉลาดแล้วความฉลาดจะทำให้เราเก่งอีกทีนึง ฉลาดเนี่ยไม่ใช่อัจฉริยะอะไรหรอกนะครับ เพียงแต่ต้องรู้จักตัวเอง หมายรวมถึงร่างกายของเราด้วยนะ อยากบอกอะไรให้รู้เรื่องนึงจำไว้ให้ดีนะ "คนที่อ่านหนังสือข้ามคืนไม่ใช่คนฉลาด" เพราะการอ่านหนังสือมีเวลาของมัน ร่างกายก็มีเวลาของมัน มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเวลาของร่างกายเราก่อนเลยนะเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ต้องนอนหลับพักผ่อนตามเวลาที่ร่างกายต้องการจริงๆและเวลาช่วงนั้นก็คือตั้งแต่สี่ทุ่มถึงประมาณตีสองของวันถัดไป (ต้องหลับก่อนสี่ทุ่ม) เพราะๆๆ ทุกอย่างที่ทำต้องมีที่มาที่ไปใช่มั้ย ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว ช่วงเวลาปนะมาณสี่ทุ่มถึงตีสองความร้อนในร่างกายของคนเราจะสูงขึ้นโดยเฉพาะเวลาประมาณเที่ยงคืนจะเป็นเวลาที่ความร้อนในร่างกายเราสูงที่สุด บางคนอาจไม่ใส่ใจ แต่รู้มั้ยครับ ความร้อนที่เกิดขึ้นนี้เป็นตัวการที่ทำให้เราดูแก่ถ้าเราไม่นอนช่วงเวลานี้ เพราะความร้อนนี่จะเผาเซลล์เราให้เหี่ยว หรือตายไปแต่ไม่มีการสร้างใหม่ขึ้นมาแทนในทันที แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นเซลล์สมองของเราเลิกสร้างตั้งแต่เรายังเล็กๆอยู่เลย ความร้อนที่ว่านี้ก็จะเผาทำลายเซลล์สมองให้ตายมากกว่าปรกติหลายเท่าตัว เซลล์สมองตายแล้วสร้างใหม่ไม่ได้นะ ดังนั้นหลังจากวันนี้ก็นอนให้หลับก่อนสี่ทุ่มนะ
เอาหล่ะหลังจากเราพักผ่อนเป็นแล้วเรื่องต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องอาหารรวมน้ำด้วยนะ
หลังจากเราตื่นในตอนเช้าดึกให้เราดื่มน้ำซักแก้วนะครับเพราะมันจะรู้สึกดี หลังจากเราตื่นขึ้นมาประมาณตีสองกว่าๆ ช่วงเวลานี้อิเล็กตรอนในอากาศสงบมากแล้วครับ (ใครเรียนดาราศาสตร์ก็คงรู้นะ)
เวลานี้อากาศดีมากๆ ให้เราหายใจรับอากาศดีๆเบาๆให้สมองเราบ้างนะครับ สมองโปร่งสบายมากเลยทีเดียว ซักตีห้าถึงหกโมงเช้าก็อย่าลืมถ่ายหนักกันนะ (ส่วนถ่ายเบาปวดตอนไหนก็ปล่อยเลย) ร่ายยาวอีกแล้วอาหารหล่ะอยู่ไหน รู้มั้ยอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดไม่ใช่อาหารเช้า (อย่างที่นักวิจัยฝรั่งเค้ากรอกหูให้ครูๆสอนเรา) แต่ก็ควรกินอาหารเช้า เพราะถ้าเราหิวเราะจะอ่านหนังสือหรือเรียนไม่รู้เรื่องเท่าที่ควร แต่อาหารมื้อที่ขาดไม่ได้คือมื้อเที่ยง (อาหารเช้าขาดได้) มื้อเที่ยงเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณสิบนาฬิกาถึงบ่ายสองแต่ควรกินไม่เกินเที่ยงครึ่ง เพราะถ้าเรากินข้าวเวลานี้ (กินข้าว...) ร่างกายจะเผาผลาญไปใช้ได้เต็มที่กินข้าวเวลานี้กินเท่าไหร่ก็อ้วนยาก (คนอ้วนก็เพราะกินอะไรนอกเวลาอย่างมากมาย...หรือไม่จริง) ข้าวเย็นก็ไม่ควรกินเกินสองทุ่มนะครับ แล้วก็กินอาหารให้ครบห้าหมู่ด้วย ฮ้า...สำหรับคนที่ซื้อซอ...ยเปปตีน มาแด...ก เฮ้ย ดื่ม นี่ก็ฉลาดน้อยลงอีกแล้ว พวกเห่อโฆษณา ฟังโฆษณาให้ดีๆแล้วคิดครับ ไอ้เจ้าซอ...ยเปปตีนเนี่ยม่ายช่ายโปรตีนของถั่วเหลืองแต้ๆหน่ะเจ้า แต่มันเป็นโปรตีนที่สังเคราะห์มาจากโปรตีนที่สกัดมาจากถั่วเหลืองอีกที (เข้าใจเนาะ) แล้วที่สำคัญกว่านั้นมันมีสารกันบูดนะคะนะครับ (สารกันบูดเนี่ยทำลายเซลล์สมองตัวพ่อเลยนะ) แล้วก็เทียบปริมาณโปรตีนแล้วแพงเวอร์ไปกว่าสี่เท่าตัว (แพงค่าขวดสีชามั้ง) อันนี้ต้องปล่อยให้คิดเองว่าเราดื่มเนี่ยฉลาดขึ้นรึเปล่านะ
มีอาหารกินแล้วก็คงเป็นเวลาอ่านหนังสือ อันนี้ไม่มีอะไรมาก แค่อย่าอ่านเวลานอนหลับ -.-! เอาฮาไว้ก่อนครับ รู้ไว้เลยนะเราควรนอนประมาณวันละสี่ชั่วโมง (ก็สี่ทุ่มถึงตีสองงัย) เพราะสมองใช้เวลาบันทึกเรื่องราวทุกเรื่องที่เรารับรู้ลงในสมองเวลาที่เราหลับนี่แหละ และมันใช้เวลาประมาณสามชั่วโมง (เราก็นอนเอาชัวร์ซักสี่ชั่วโมง) รู้แบบนี้แล้วได้อะไร ได้แน่ๆ เพราะเราจะแบ่งเรื่องที่เราจะอ่านออกเป็นช่วงเวลาได้ แบบนี้ ก่อนนอนเราควรอ่านเรื่องที่ต้องท่องจำหรือวิชาที่ต้องใช้ความจำ หลังจากนอนแล้วและตื่นขึ้นมาให้เราใช้เวลาอีกซักครึ่งชั่วโมงทวนสิ่งที่เราอ่านไปก่อนนอนแล้วเราจะจำได้ดี และช่วงเช้าดึกหลังตีสอง ให้เราอ่านวิชาที่ใช้สมองในการคำนวน เพราะสมองคนเราจะทำงานด้านคำนวนได้ดีในช่วงนี้ (ไม่ขอเล่ารายละเอียดนะ) นี่ก็คือเวลาอ่านหนังสือคร่าวๆ จำไว้ว่า..."อย่าอ่านเวลานอน"
อ่านหนังสือเป็นแล้วก็ใกล้ที่จะได้เวลาสอบเต็มแก่แล้วมั้ง คนส่วนมากยิ่งใกล้สอบยิ่งอ่านหนังสือหนักเข้าไปใหญ่ และเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่า คนส่วนมากผลการเรียนแย่มาก (สำหรับน้องที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยคนส่วนน้อยเท่านั้นที่สอบได้คณะและมหาวิทยาลัยที่คนส่วนมากใฝ่ฝัน) ถ้าเห็นแบบนี้แล้วถ้าเราทำตามคนส่วนมากชีวิตเราก็จะแย่เหมือนเค้า (หรือแย่กว่าด้วยซ้ำ)
การเตรียมสอบที่ดีควรอ่านหนังสือให้เสร็จก่อนสอบซักหนึ่งสัปดาห์ แล้วเวลาที่เหลือให้เราทบทวนแบบสบายๆ ออกกำลังกายให้เหงื่อออกบ่อยขึ้น ทำสมาธิให้นานขึ้น แต่ห้ามเล่นเกม หรือเล่นอินเตอร์เน็ตเด็ดขาด...เด็ดขาดเลยนะไม่งั้นที่อ่านมาทั้งหมดจะหายไปเกือบครึ่ง (และที่หายไปก็เรื่องสำคัญทั้งนั้น) และ และ และ ต้องไปให้ถึงห้องสอบก่อนเวลาเข้าสอบซักหนึ่งชั่วโมง ให้ไปทำความคุ้นเคยกับสถานที่สอบ ให้ร่างกายเรากับสถานที่เป็นหนึ่งเดียวกัน และเมื่อเข้าไปนั่งในห้องสอบแล้วอย่าเพิ่งเปิดทำข้อสอบ ถึงแม้คนอื่นจะก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบ ผมขอให้คุณเจียดเวลาซักหนึ่งนาที หลับตาแล้วนึกขอบคุณทุกคน และทุกสิ่ง (ที่นึกได้) ที่ให้ความรู้กับคุณ แล้วค่อยลงมือทำข้อสอบแบบสบายๆ อิอิ
หลักๆก็มีแค่นี้หล่ะนะครับที่จะทำให้เราทำข้อสอบได้ดีกว่าพวกที่อ่านหนังสือแบบเอาเป็นเอาตาย อย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะ (ช่วงบ่ายๆ) อ้อ อีกข้อหนึ่งถ้าทำได้นะจะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ดีขึ้นอีกเท่าตัวเลยหล่ะ คือว่า ก่อนนอนซักครึ่งชั่วโมงหรือมากกว่านั้นให้สวดมนต์แล้วนั่งสมาธิ ไม่ต้องเสียดายเวลาอ่านหนังสือ รับประกันความคุ้มค่าด้วยบทเพลงบรรเลงออร์เคสตาร์ ๑๔ บทเพลงไว้ฟังแก้เครียดจากอัลบัม Grammy Light Orchestra ฟังกันให้จุใจไปเลยริปมาจากแผ่นแท้ความละเอียดสูงเน้อ...หาหูฟังเจ๋งๆ ลำโพงดีๆ มาไว้ฟังนะครับ แล้วก็สุดท้ายแล้วจริงๆ...อย่าเครียดกับการสอบนะไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบไหน "ชีวิตเรา...มีอะไรที่มากกว่านั้น"
Grammy Light Orchestra {27 พฤศจิกายน 2536} ความละเอียด 320kbps รูปแบบ MP3 Audio All files storeged on mediafire.com {http://www.mediafire.com/?yjskizetm0qdt} | |||
๐๑ ทำใจลำบาก | ๐๒ ได้อย่างเสียอย่าง | ๐๓ สบาย สบาย | ๐๔ สงสารกันหน่อย |
๐๕ ก็เคยสัญญา | ๐๖ พักตรงนี้ | ๐๗ ขอเพียงที่พักใจ | ๐๘ เหมือนเป็นคนอื่น |
๐๙ ด้วยรักและผูกพัน | ๑๐ เธอรู้หรือเปล่า | ๑๑ หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ | |
๑๒ ขอเป็นคนหนึ่ง | ๑๓ ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ | ๑๔ วิมานดิน |